รับสอนทำโปรเจ็คจบทางคอมพิวเตอร์ และ IT สำหรับนักศึกษาทุกประเภท

รับสอนทำโปรเจคจบจ้า


ด้วยผลงานรับประกันคุณภาพ สอนมามากกว่า 20 กลุ่มจบทุกกลุ่มครับ แถมได้ความรู้ในการทำงานจริงๆไปสมัครงานด้วย ค่าใช้จ่ายยังถูกกว่าจ้างทำโปรเจคอีกนะจ๊ะน้องๆทั้งหลาย

สอนวิธีคิด วิธีการแก้ปัญหา พร้อมช่วยแก้ปัญหาและสร้างความมั่นใจไปพร้อมกับทำโปรเจค สาย IT หรือ CS หรือ CPE ที่ว่ายากแสนยากให้สำเร็จได้ภายในเวลาที่กำหนด
ไม่ว่าจะเป็น C#,VB, .NET ASP.NET, JAVA, PHP รับสอนได้หมดจ้า

ตอนนี้รับเฉพาะ ในเขต กทม. และขอนแก่นเท่านั้นนะครับ



วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ทำโปรเจคจบยังไงให้โดนใจคุณครู ตอนที่ 2

หายไปหลายวันกลับมาใหม่ ก็ลืมเลยว่าจะเขียนไรต่อ ฮ่าๆๆ
เอาเป็นว่าขั้นต่อไปจะมาพูดถึงว่าทำไงให้มันโดนใจอาจารย์ ในส่วนของไอเดีย และจินตนาการ

มีข้อคิดในการหาไอเดียอย่างนี้ครับ
1. คุณไปอ่านๆๆๆๆๆ อะไรก็ได้ อย่าอ่านแต่คอมพิวเตอร์ เว็บ บล็อกสารานุกรม หรืออะไรทั้งหลาย แล้วลองคิดดูว่ามันขาดอะไรไปบ้าง เราต้องการเพิ่มอะไรเข้าไป เช่นไปร้านเน็ตก็น่าจะมีโปรแกรมสั่งอาหารสั่งขนมโดยไม่ต้องเดิน อะไรแบบนั้น ให้ร้านเค้าเอามาส่งเองเลย

2. คุณมีงานอดิเรกอะไร มีความสนใจเรื่องไหน เคยเห็นอะไรแล้วสะดุดตา ลองไปคิดดูว่ามันเอามาใส่ในคอมฯได้ไหมถ้าได้ลองคิดเป็นโปรเจคดู

3. ถามๆๆๆๆ แล้วก็ ถาม ให้มากที่สุด กล้าถามก็มีคนกล้าตอบ ถามอาจารย์ที่ปรึกษาง่ายที่สุด อิอิแต่จะให้ดีไปถามในกูเกิ้ลก่อนแล้วค่อยไปถามคน ไม่งั้นเดี๋ยวโดนเค้าด่ามาว่าไม่หาข้อมูลก่อนมาถาม

4. เอาให้มันใช้ได้จริงนะ เป็นโปรแกรมที่ควรทำมาแล้วได้ใช้

นึกไม่ออกละถ้านึกออกเดี๋ยวมาเขียนใหม่นะ บายๆ ว่าที่โปรแกรมเมอร์ทั้งหลาย สวัสดีครับ


วันพุธที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ทำโปรเจคจบยังไงให้โดนใจคุณครู ตอนที่ 1


วันนี้มาเริ่มต้นกันด้วยไอเดียดีกว่า ไอเดีย จินตนาการ สำคัญกว่าวิธีการ มีใครเถียงผมไหม? เพราะฉนั้นเหตุผลที่คนเขียนโปรแกรมไม่เก่งไม่ได้อยู่ที่เค้าไม่เข้าใจ แต่เ้ค้าขาดจินตนาการมากกว่า แต่ข้ามมันไปก่อน อยากจะแชร์ให้น้องๆ (อิอิ ขอเรียกน้องๆนะครับ) ได้รับไอเดียจากผมไปบ้างว่าอะไรที่คิดว่าทำแล้วโดนใจอาจารย์ที่ปรึกษา คณะกรรมการ หรือแม้กระทั่งให้มันไปประกวดได้รางวัลไปเลย

อย่างแรกมาดูกันก่อนว่าไอเดียดีๆควรจะเป็นแบบไหน
  • ใช้ได้จริง ไม่ใช่ทำแล้วกองไว้เปลือง CD กับค่า กระดาษ A4
  • มีประโยชน์ในเชิงธุรกิจ หรือสร้างสรรค์
  • ไม่จำเป็นต้องใหม่ทั้งหมด เอาที่มีอยู่แล้วมา่ต่อยอดก็ได้ครับ อาจารย์ส่วนใหญ่แค่อยากดูว่าเราเขียนโปรแกรมเป็นไหมแค่นั้นเอง
  • หน้าตาไม่สำคัญเท่า ฟังก์ชั่นการทำงาน เพราะเราเป็น programmer ไม่ใช่ designer แต่ถ้าสวยหรือหรูก็ได้คะแนนเพิ่ม แต่ขอให้เรียบหรูดีไว้เป็นใช้ได้
  • ถ้าทำเว็บลองใส่ Ajax แปลกๆเข้าไปดู เพื่อเรียกร้องคะแนนสงสารในความพยายามของเรา
  • อย่าทำโครงการใหญ่เกินไป เดี๋ยวทำไม่เสร็จ อย่าไปรัดคอตัวเองนั่นแหละเดี๋ยวซวย เอาเนื้อๆเน้นๆจะดีกว่า เคยเจอโครงการนึงทำ dictionary webservice เสียเวลา 80% ไปกับการคีย์คำศัพท์ สนุกไหมละนั่น
  • ถ้าเอาแบบโดนจริงๆต้องมี Innovation ด้วยอย่างตอนผมเป็นนักศึกษา จาวา มาใหม่ๆ ผมก็เลยทำห้องทดลองฟิสิกส์ออนไลน์ ได้รางวัล NSC กับเค้าด้วยนะ จริงๆมันเป็นโปรเจ็คย่อยจาวา ผมก็เลยจับเอามารวมๆยำๆทำเป็น เว็บ E-Learning ซะเลย ก็เลยเวิร์ก อีกอันก็ตอนกระแส WebService มาก็รีบทำก่อนเพื่อนเลย ทำไม่เสร็จแต่ก็จบวิชาโปรเจคเพราะการพรีเซนต์เข้าช่วยฮ่าๆ มันโดนใจอาจารย์่น่ะครับต่อรองได้
  • แบ่งงานกันดีๆ ให้คุณครูเห็นว่าเราทำเป็นทีมได้ดีขนาดไหน โปรเจคเทพแต่เพื่อนอีกคนพิมพ์เอกสารก็ไม่เวิร์กนะ
  • เลิกเล่นเกมส์ ไปหาอ่านบล็อก บทความดีๆซะบ้าง ลงมืำอตอนนี้เลย อย่ารอ โอเค๊!!!
เดี๋ยวมาต่อตอนที่ 2 นะไปละ แอ่น แอน แอ๊นนนนนนนน

ปัญหาของเด็กที่เรียนสาย IT ทุกวันนี้ รู้ตัวเองก่อน สอนทำโปรเจค ด้วย C#.Net

ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนว่านี่เป็นเพียงแคุ่มุมมองหนึ่งในฐานะรุ่นพี่ โปรแกรมเมอร์ และอาจารย์คนหนึ่งที่มองต่อ เพื่อนๆืที่เคยเรียนด้วยกัน หรือเด็กที่เคยสอน ผมจะมองภาพรวมสำหรับ คนที่ไม่ได้เก่งหรือมีทักษะ ในการเขียนโปรแกรมเท่าไหร่ คนไหนเก่งแล้วไม่ต้องอ่านครับ หรือถ้าอ่านคิดว่ามีอะไรน่าเพิ่มเติมก็ใส่ให้หน่อยละกัน

สิ่งที่คนมาเรียนสาย IT ไม่ว่าจะเป็นสาขา สารสนเทศ คอมพิวเตอร์ธุรกิจ วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ วิศวคอมพิวเตอร์ แล้วเขียนโปรแกรมไม่เป็นน่าจะ(น่าจะนะครับไม่ได้ฟันธง) มาจากปัจจัยประมาณนี้

  • เรียนแบบจำๆๆๆ จดๆๆๆ ไม่ค่อยคิดสร้างสรรค์
  • ไม่กล้าลงมือ เพราะกลัวผิด
  • ไม่กล้าเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะโค้ดที่ก็อบมา
  • อ่านภาษาอังกฤษไม่ออก
  • ไม่ค่อยสังเกตสิ่งรอบข้าง หรือไม่เป็นคนช่างสังเกตนั่นแหละ
  • ไม่มีฝันหรือเป้าหมายในชีวิตเท่าไหร่
  • ไม่กล้าเดา
  • ไม่กล้าตัดสินใจ
  • ไม่มีความเป็นผู้นำ
  • ขี้เกียจ ไม่ยอมหัดเขียนโปรแกรม ไม่ยอมอ่านหนังสือ หรือขี้เกียจกระทั่งเปิดดิคชันนารี
  • ไม่รู้จะเรียนไรเลยมาเรียนคอมเพราะคิดว่า เล่น msn หรือ games online เยอะๆแล้วจะเรียนคอมรู้เรื่อง
  • จริงๆยังมีอีกเยอะ เดี๋ยวมาลงเพิ่ม
นี่แค่คร่าวๆนะครับ ผมว่ายังมีอีกหลายข้อ คือเท่าที่เห็นเนี่ย นอกจากจะปึกคอมแล้วยังขี้เกียจอีกต่างหากครับ เพราะฉะนั้นแล้ว สิ่งสำคัญอย่างแรกเลย คือคุณต้อง ขยัน (ตัวใหญ่ๆ) ผมเห็นมาเยอะแล้วครับเรียน 4 ปี จบไม่ได้เก่งอะไรแต่อาศัยขยันๆๆๆ ก็เขียนเป็นเองครับ

ใครลองพิจารณาดูนะครับ ที่ผมบอกไปนี่คือข้อด้อยถ้าคุณมีหลายข้อก็ให้เปลี่ยนเป็นตรงกันข้ามนะครับ แล้วจะดีขึ้นเชื่อผม

แล้วเจอกันในบทความถัดไป บายๆ เจอกันนะเด็กๆ จุ๊บๆ

ผมทำบล็อกนี้ขึ้นมาทำไม (บล็อก สอนทำโปรเจ็ค ด้วย C#)

สวัสดีครับ ขอแนะนำตัวอีกครั้งละกันนะครับ ผมชื่อนายวาที วิเชียรนิตย์ เรียกว่า เวย์ ก็ได้ ก็เคยเป็นอาจารย์สอนคนมาระยะหนึ่ง แต่เดียวนี้ก็มาเป็นโปรแกรมเมอร์ กับนักธุรกิจเล็กๆแล้ว แต่ช่วงที่เป็นอาจารย์เนี่ยเคยรับสอนพิเศษให้นักศึกษาทำโปรเจคด้วยภาษา Java อยู่กับฐานข้อมูลอย่าง Oracle ก็เลยอยากจะมาแชร์ข้อมูลให้น้องๆ น.ศ. ที่ต้องทำโปรเจคจบเกี่ยวกับสาย IT หรือ Computer ทั้งหลายได้มีไอเดียไปต่อยอดกันต่อไปนะครับ

สิ่งที่จะมีในเว็บนี้ก็จะเป็น
  • เทคนิคการทำโปรเจคให้โดนใจอาจารย์
  • สอนเริ่มต้นพื้นฐานในการเขียนโปรแกรม
  • ตัวอย่างโค้ดที่จำเป็น ไม่ใช่ในหนังสือห่วยๆในร้านขายหนังสือพวกนั้นเอามาใช้ไม่ได้หรอกจ้า
  • ตัวอย่างโปรแกรมบางโปรแกรมที่น่าไปลองแกะดู
  • แชร์ไอเดียทำโปรเจคกันด้วยละกัน